บทความสัมภาษณ์ในนิตยสารเพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
“มะหมา อาจารย์ใหญ่”
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ผู้คนจำนวนมากนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านหรือเพื่อไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ
ซึ่งนอกจากความน่ารักแล้วสุนัขยังเป็นสัตว์ที่แสนจะซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ
แต่เมื่อสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้ตายลงต่อให้เจ้าของจะรักและเศร้าเสียใจเพียงใดก็คงได้แต่เพียงนำร่างของสุนัขที่ตนรักนั้นนำไปฝังหรือเผาเท่านั้น แต่มีใครเคยทราบไหมว่านอกจากการฝังหรือเผา
ร่างกายของสุนัขที่เรารักนั้นก็ยังสามารถใช้เป็นประโยชน์ให้กับนิสิตสัตวแพทย์ได้อีก
และในวันนี้ผู้เขียนก็มีโอกาสได้ไปร่วมพิธีทำบุญสัตว์ทดลองประจำปี
ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2555 ที่ผ่านมา
ณ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เนื่องจากตัวของผู้เขียนเองก็ได้บริจาคซากสุนัขที่ตนเองรักให้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่
และเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำให้กับสุนัขนั้นเป็นสิ่งที่ดี
ผู้เขียนก็เลยขอสัมภาษณ์เรื่องราวความเป็นมาของสุนัข “มะหมา อาจารย์ใหญ่”
จากผู้ช่วยศาสตาจารย์ สพ.ญ.ดร.อุไร พงศ์ชัยพฤกษ์ หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์
ซึ่งทำให้เราได้ทราบถึงความเป็นมา
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: พิธีทำบุญสัตว์ทดลองจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีหรือไม่และมีวัตถุประสงค์อย่างไร?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
จัดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากการเรียนการสอนภายในคณะสัตวแพทยศาสตร์
มีบางวิชาที่จำเป็นต้องใช้สัตว์เป็น model
นอกจากนี้
ในแต่ละปีก็ยังมีการใช้สัตว์สำหรับการทำวิจัยอีกบางส่วน ดังนั้นการจัดพิธีทำบุญสัตว์ทดลองจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการระลึกถึงบุญคุณและอุทิศส่วนกุศลให้แก่สัตว์เหล่านี้
รวมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกความกตัญญูและจรรยาบรรณให้แก่นิสิตทุกคน เพราะสัตว์เหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นครูของนิสิตทุกคนด้วย
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: โครงการรับบริจาคซากสุนัขใครเป็นผู้ริเริ่มและเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
โครงการนี้เริ่มต้นประมาณปี พ.ศ. 2545 โดยคณบดีท่านปัจจุบัน ได้แก่ ศ.ดร.อภินันท์
สุประเสริฐ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ พ.อ.หญิง
รศ.มาลีวรรณ เหลี่ยมศิริเจริญ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชามหกายวิภาคศาสตร์
ได้มีความคิดริเริ่มที่จะรับบริจาคซากสุนัขที่เสียชีวิตภายในโรงพยาบาลสัตว์คณะสัตวแพทยศาสตร์
วิทยาเขตบางเขน
โดยเจ้าของสุนัขจะต้องยินยอมที่จะมอบร่างสุนัขของตนเพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอน
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: รับบริจาคซากสัตว์เฉพาะสุนัขหรือว่าสัตว์อื่นก็สามารถนำไปบริจาคได้?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
รับเฉพาะสุนัขเท่านั้น
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: หลักเกณฑ์ในการรับบริจาคซากสุนัขเพื่อนำไปศึกษามีอะไรบ้าง?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
สุนัขจะต้องเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
เนื่องจากสุนัขจะมีประวัติการรักษาอยู่ และสัตวแพทย์จะต้องทำการวินิจฉัยโรคและตรวจสอบว่าสุนัขตัวนั้นเข้าข่ายที่จะสามารถนำมาใช้สำหรับการเรียนการสอนได้
เช่น
-
เสียชีวิตแล้วไม่เกิน
24 ชั่วโมง และนำไปเก็บรักษาไว้ในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
-
ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคติดต่อร้ายแรง
เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคเลปโตสไปโรซีส เป็นต้น
-
ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ทำให้อวัยวะภายในฉีกขาด
กระดูกแตก หรือได้รับการผ่าซาก เนื่องจากไม่สามารถฉีดน้ำยารักษาสภาพได้
-
น้ำหนักไม่ควรต่ำกว่า
7 กิโลกรัม และไม่ควรมากกว่า 40 กิโลกรัม เพราะไม่เหมาะกับการนำมาศึกษา
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: ขั้นตอนหลังจากได้ซากสุนัขมานั้นมีขั้นตอนการเก็บรักษาเพื่อไว้ใช้ศึกษาอย่างไรบ้าง?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
หลังจากที่สุนัขเสียชีวิต
หากเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถทำการคงสภาพด้วยน้ำยาคงสภาพได้ เช่น
ช่วงเวลาเย็นหรือนอกเวลาราชการ (เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการฉีดน้ำยาเข้าร่างกายสัตว์)
จะทำการแช่ร่างไว้ภายในห้องเย็นทันทีเพื่อไม่ให้ร่างเน่าก่อน แต่หากไม่ใช่ช่วงเวลาดังกล่าว
จะสามารถฉีดน้ำยาได้เลย การฉีดน้ำยาคงสภาพ (ฟอร์มาลิน) จะฉีดเข้าเส้นเลือดให้แพร่ไปทั่วร่างกายก่อน
แล้วนำร่างทั้งตัวแช่ลงในถังน้ำยาฟอร์มาลินอีกอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนที่จะนำมาใช้สำหรับศึกษาได้ เมื่อนำร่างมาใช้ในการศึกษาแล้ว
จะต้องนำแช่ลงในถังน้ำยาทุกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นในแต่ละชั่วโมงสอน
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: นิสิตสัตวแพทย์ที่จะเรียนกับอาจารย์ใหญ่เป็นนิสิตชั้นปีไหนและนิสิตสามารถที่จะเลือกอาจารย์ใหญ่ได้เองหรือไม่?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
นิสิตชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2
จะเริ่มต้นเรียนวิชามหกายวิภาคศาสตร์ทางสัตวแพทย์ I ซึ่งเป็นวิชาแรกที่ใช้สุนัขเป็นอาจารย์ใหญ่ในการเรียนภายในคณะสัตวแพทยศาสตร์
นิสิตจะสามารถเลือกอาจารย์ใหญ่ได้ เนื่องจาก นิสิตบางคนตัวเล็ก
หากได้สุนัขตัวใหญ่ก็มักจะทำให้เกิดความยากลำบากในการผ่าดูโครงสร้างส่วนต่างๆ
เพราะบางตำแหน่งจะต้องใช้แรงในการเปิดผ่าด้วย
เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
: หลังจากที่เรียนจบสิ้นแล้วปฏิบัติอย่างไรกับซากอาจารย์ใหญ่?
สพ.ญ.ดร.อุไร:
เนื่องจาก ซากอาจารย์ใหญ่นั้นมีการคงสภาพด้วยน้ำยาฟอร์มาลิน เมื่อเรียนเสร็จสิ้นแล้วจึงต้องเผาซากในลักษณะเฉพาะ
เพื่อไม่ให้ไอฟอร์มาลินก่ออันตรายต่อสุขภาพได้
เมื่อได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วคนเลี้ยงสุนัขหลายคนที่มีจิตใจอันเป็นกุศล
คงกำลังคิดว่าหากสุนัขที่ตนเลี้ยงเสียชีวิตลงก็คงอยากจะนำสุนัขของตนมาบริจาคบ้างแต่ว่าการที่นำสุนัขมาบริจาคเพื่อให้เป็นอาจารย์ใหญ่นั้น
ก็ไม่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้
ดังนั้นหากสุนัขตัวใดได้เป็นอาจารย์ใหญ่จึงถือได้ว่าเป็นกุศลสำหรับตัวสุนัขเองอีกด้วยซึ่งก่อนเรียนจะมีพิธีอุทิศส่วนกุศลให้
โดยมีพระสงฆ์มาทำพิธีและทำสังฆทานให้ สำหรับผู้ที่สนใจต้องการบริจาคซากสุนัขที่เสียชีวิตเพื่อให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่ให้แก่นิสิตสัตวแพทย์
ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะรับบริจาคเฉพาะสุนัขที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลสัตว์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ที่สัตวแพทย์ได้ตรวจแล้วว่าไม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคติดต่อร้ายแรงเท่านั้นโดยสามารถติดต่อได้ที่หน่วยประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลสัตว์
หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ภาควิชา กายวิภาคศาสตร์
คณะสัตวแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หรือจะโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 0-2579-058-9 ต่อ 6201 โทรสาร 0-2579-7539
ผู้เขียน มนัสนันท์
สุนทรพิสุทธิกุล
ผู้อุทิศร่าง เฉาก๋วย และ
ชิพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น