วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

ถนนสายหัวใจตอนจบ



ตอนจบ
            หลังจากที่ลูกแก้วพาเจ้าสร้อยเงินกลับบ้าน ลูกแก้วก็นั่งสำรวจร่างกายของเจ้าพวกสี่ขาทุกตัวและสิ่งที่ลูกแก้วได้เจอก็คือรอยแผลเป็นบนตัวของเจ้าเฉาก๊วยซึ่งมันเป็นร่องรอยแบบเดียวกันกับที่เจอบนร่างของเจ้าสร้อยเงินแต่ต่างตรงที่ว่าตอนนี้แผลของเฉาก๊วยมันหายแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็น  ลูกแก้วนั่งทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้นที่ลูกแก้วก็ได้ยินเสียงร้องของเฉาก๊วยและภาพของเจ้าสี่ขาทั้งหลายที่วิ่งหนีกันวุ่นวาย   และเจ้าเฉาก๊วยที่วิ่งหนีหายไปหลบใต้โต๊ะ  แต่วันนั้นลูกแก้วไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ลูกแก้วก็เลยได้แต่กอดและปลอบใจมันไปตามภาษา ลูกแก้วยังนึกถึงภาพของพวกมันที่กลัวกันจนตัวสั่น และเจ้าเฉาก๊วยก็ไม่สบายไป 2-3 วันโดยที่มันไม่ยอมแตะต้องอาหารในจานเลย  และอีกเช่นกันที่ลูกแก้วคิดว่าเฉาก๊วยมีอาการไม่สบายธรรมดาจึงไม่ยอมกินอาหาร  ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาเฉลยตอนจบดีที่มันไม่ใช่ตอนจบของชีวิตใครตัวใดตัวหนึ่ง  ลูกแก้วก็ตัดสินใจย้ายบ้านเหตุผลข้อแรกคือลูกแก้วเกลียดคนที่ทำสุนัขที่ไม่มีทางสู้และเหตุผลอีกข้อก็คือลูกแก้วไม่ต้องการให้ใครมาทำร้ายหัวใจของลูกแก้วอีก  ลูกแก้วพาเจ้าเพื่อนสี่ขาทั้งหมดย้ายไปอยู่บ้านที่จังหวัดนนทบุรี  ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของเจ้าเฉาก๊วยหมาดำที่ตอนนี้เป็นสุนัขที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเจ้าชิฟแกะน้อย  และจากวันที่ลูกแก้วเอาเฉาก๊วยมาเลี้ยงมันไม่เคยทำให้ลูกแก้วต้องลำบากใจเลย  เฉาก๊วยเป็นสุนัขเรียบร้อยสุขภาพแข็งแรงนอกจากการฉีดวัคซีนแล้วเฉาก๊วยไม่เคยไม่สบายและการกลับไปครั้งนี้ลูกแก้วไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นการกลับไปสู่การจากลา  เฉาก๊วยมาอยู่ที่บ้านนี้ได้ 2 ปีก็เริ่มมีอาการไม่สบายพาไปหาหมอบอกว่าเฉาก๊วยมีอาการทางระบบประสาทซึ่งน่าจะมีผลมาจากการที่ถูกยิงในครั้งนั้น  ภาพของเฉาก๊วยที่นอนหมุนเป็นวงกลมไม่ยอมกินไม่ยอมนอนทำให้ลูกแก้วรับรู้ได้ว่าเวลาของเฉาก๊วยเหลือน้อยเต็มทนแล้ว  การพยายามยื้อชีวิตด้วยการให้เกลือแร่เพื่อที่จะให้มันมีแรง  ลูกแก้วก็ต้องป้อนให้กินทีละหยดๆ  พร้อมๆกับน้ำตาของลูกแก้วที่ไหลนองเต็มหน้าเวลาที่มองดูว่าเจ้าเฉาก๊วยว่ามันคงจะทรมานมากเพราะมันไถพื้นจนตัวของมันเป็นแผลหลายจุด
            การที่ลูกแก้วย้ายบ้านหนีมาก็เพราะกลัวการสูญเสียแต่มันกลับเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น  เช้าวันนั้นลูกแก้วจะไปทำงานลูกแก้วตัดใจบอกกับเจ้าเฉาก๊วยว่าถ้าทรมานก็ไปเถอะน่ะ  เพราะถ้าเฉาก๊วยอยู่แม่มีความสุขแต่เฉาก๊วยต้องทุกข์ทรมานแม่ก็ขอยอมตัดใจแล้วลูกแก้วก็ออกไปทำงาน  แต่นั่งรถไปยังไม่ทันถึงที่ทำงานแม่ก็โทรบอกว่าเฉาก๊วยไปแล้ว  ลูกแก้วหูอื้อตาลายไปหมดรีบลงรถแล้วเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านทันที  ภาพที่เห็นหลังลงจากรถคือภาพของเฉาก๊วยที่นอนนิ่งไม่ไหวติงแม้ลูกแก้วจะเรียกเท่าไหร่เฉาก๊วยก็ไม่ลืมตาขึ้นมา  เฉาก๊วยคงหมดห่วงลูกแก้วแล้วจริงๆเพราะเฉาก๊วยนอนตาหลับสนิท  ลูกแก้วนั่งลงกอดร่างของมันอยู่นานกว่าที่จะตั้งสติได้ก็รีบหาเบอร์โทรของวัดที่รับเผาศพสุนัขแต่มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเพราะกี่วัดๆที่ลูกแก้วโทรไปก็ไม่มีเจ้าหน้าที่รับสายเลย สุดท้ายลูกแก้วก็เลยโทรไปที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อขอบริจาคร่างของเฉาก๊วยให้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่  นี่คงเป็นสิ่งที่เฉาก๊วยต้องการในวาระสุดท้ายของชีวิตก็ได้  หลังจากที่เฉาก๊วยจากลูกแก้วไปลูกแก้วก็ใส่ใจกับเจ้าพวกสี่ขามากขึ้นทุกวันหลังจากกลับจากทำงานลูกแก้วก็จะทักทายพวกมันทุกตัวและบอกรักพวกมันทุกวัน  และหลังจากนั้นอีกไม่นานลูกแก้วก็ย้ายบ้านอีกครั้งลูกแก้วก็พาพวกมันทุกตัวย้ายมากันหมดทั้งเจ้าชิพ, โจนัส, สร้อยเงิน, สร้อยทอง, สร้อยนาค,และเจ้าอโกโก้หมาหน้าย่น  แม้บ้านใหม่ของลูกแก้วมันจะคับแคบกว่าเดิมก็ตามแต่ลูกแก้วก็ไม่เคยผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ของพวกมันและลูกแก้วก็ไม่เคยคิดที่จะสร้างภาระให้กับสังคมเหมือนกับหลายคนพอย้ายบ้านก็มักจะปล่อยสุนัขให้อยู่ที่เดิมโดยไม่สนใจว่ามันจะอยู่ยังไงและต่อไปมันจะไปเป็นภาระให้กับผู้อื่น
                      หลังจากที่ลูกแก้วย้ายบ้านมาอยู่บ้านใหม่ได้ปีกว่า  ลูกแก้วจำได้ว่าวันนั้นตอนเช้าลูกแก้วพาเจ้าชีฟไปเดินเล่นหน้าบ้านแต่พอเข้าบ้านเจ้าชิฟมันก็แน่นิ่งไปเฉยๆ  ลูกแก้วกอดมันไว้ในอ้อมอกเสียงลมหายใจที่ขาดหายไปมันทำให้ลูกแก้วเหมือนใจจะขาดลูกแก้วตะโกนเรียกชื่อมันดังๆ และนึกในใจว่าถ้าปาฏิหาริย์มีจริงลูกแก้วขอเพียงให้มันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  ลูกแก้วอยากจะบอกมันเป็นครั้งสุดท้ายว่าลูกแก้วรักมันมากแค่ไหน  และคำอธิษฐานของลูกแก้วก็เป็นจริงเพราะเจ้าชิฟมันลืมตาขึ้นมองลูกแก้วเหมือนจะบอกลาแล้วมันก็จากไปจริงๆ  หยดน้ำตาของลูกแก้วไหลลงไปในดวงตาของเจ้าชีฟจนเอ่อล้นออกมาลูกแก้วกอดร่างที่ไร้วิญญาณของมันร้องไห้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เมื่อตั้งสติได้ลูกแก้วก็นำร่างของชิฟไปบริจาคเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่อีกเช่นกัน  ตอนนี้หัวใจของลูกแก้วมันเหมือนถนนที่กำลังทอดยาวไปไกลจนไม่เห็นจุดสิ้นสุดของมันและไม่ว่าลูกแก้วจะเปลี่ยนไปเดินเส้นทางใดลูกแก้วก็ยังมั่นใจว่าในถนนสายนี้จะยังคงมีเพื่อนสี่ขาอยู่ในถนนสายหัวใจสายนี้ตลอดเวลา  ลูกแก้วปิดสมุดบันทึกที่อยู่ตรงหน้าพลางหันไปมองเจ้าสมาชิกใหม่ในบ้านที่ตอนนี้มาอยู่กับลูกแก้วได้ 4 เดือนแล้วมันนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขอยู่บนที่นอนของลูกแก้ว 
จบบริบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น