ตอนที่ 3
ลูกแก้วนอนร้องไห้ทั้งคืนพอเหนื่อยก็หลับพอตื่นขึ้นมาก็ร้องต่อจนแม่สงสารก็เลยโทรศัพท์ไปหาน้าชายให้ช่วยพาแม่ไปที่เทศบาลแล้วก็เป็นดังคาดเพราะแม่เล่าให้ลูกแก้วฟังว่า
พอแม่ไปถึงก็เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่สักพักก็มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งพาแม่เข้าไปด้านในที่เป็นกรงขังสุนัขขนาดใหญ่แยกไว้เป็นกรงๆหลายกรงมากบางกรงก็มีสองตัว
บางกรงก็มีสามตัวบางตัวก็นั่งบางตัวก็นอนแต่พอมีคนเข้าไปมันก็รีบลุกขึ้นมา กระดิกหางดีใจบางตัวก็เห่าเรียกไม่หยุดเหมือนกับว่ามันจะขอร้องให้ช่วยพามันออกไปจากที่นี่ที
แม่มองหาเจ้าหมีแต่ก็ยังไม่เห็นแต่พอไปหยุดอยู่หน้ากรงๆหนึ่งแม่รู้สึกว่าจะใช่เจ้าหมีก็เลยตะโกนเรียกชื่อมันสักพักแม่ก็เห็นเจ้าหมีมันลุกขึ้นและวิ่งมาหาหน้ากรง พอเจ้าหน้าที่ปล่อยมันออกมาได้มันก็วิ่งหนีสุดชีวิตจนต้องตามจับกันวุ่นวาย เป็นอันว่าวันนั้นแม่ต้องเสียเงินในการไถ่ตัวมันพร้อมกับเสียค่าฉีดยาพิษสุนัขบ้า
พอกลับมาถึงบ้านคราวนี้มันคงเข็ดเพราะลูกแก้วเห็นมันไม่ยอมออกไปไหนมาไหนอีกเลย เจ้าหมีอยู่กับลูกแก้วมา 9
ปีเจ้าหมีก็เริ่มเข้าสู่วัยชราคราวนี้มันเอาแต่กินและนอนแต่ลูกแก้วก็ไม่เคยรักมันลดน้อยไปกว่าเดิมเลย ตลอดเวลาเจ้าหมีไม่ใช่สุนัขที่ดุร้ายแต่มันเป็นสุนัขที่เฝ้าบ้านได้ดีเยี่ยมเพราะที่บ้านเป็นร้านขายของชำซึ่ง
ถ้าใครเดินเข้าบ้านแล้วไม่หยิบอะไรเจ้าหมีมันก็จะนอนมองเฉยๆ แต่ถ้าใครหยิบของแล้วตอนนั้นแม่ไม่ได้อยู่หน้าบ้านมันก็จะกระโจนกัดทันที ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันกัดคนที่เข้ามาหยิบของในร้านตอนที่แม่ไม่อยู่มันกัดขย้ำเข้าที่น่องจนไขมันไหลออกมาจุกอยู่ตรงปากแผลเป็นที่น่าสยดสยอง และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่แม่ต้องเสียเงินค่ารักษาและค่าทำขวัญให้กับผู้เสียหายไปไม่ใช่น้อย
ส่วนเจ้าหมีซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงแล้วมันก็คงรู้ตัวว่ามันผิด
เพราะว่าขนาดแม่ตีมันเท่าไหร่มันก็นอนหมอบนิ่งหลับตาร้องด้วยความเจ็บปวดจนลูกแก้วทนไม่ได้ต้องเข้าไปกอดมันไว้เพื่อกันไม่ให้แม่ตีมันอีก.....
ผ่านมาอีกหลายปีตอนนี้เจ้าหมีมันเริ่มมีอาการไม่สบายมันมีอาการบวมตามตัวและตามขาแถมยังมีกลิ่นเหม็นซึ่งไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่พอพามันไปหาหมอๆก็บอกว่ามันเป็นโรคเท้าช้างกลับมาบ้านลูกแก้วก็ป้อนยาให้มันกินตามหมอสั่งแต่อาการของมันก็ยังไม่ดีขึ้นลูกแก้วก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนทุกวันพอตื่นเช้าก็ไปโรงเรียนพอตอนเย็นก็รีบกลับบ้านเพื่อมาดูแลมัน
พักหลังเจ้าหมีมันไม่ค่อยยอมที่จะเล่นกับลูกแก้ว คืนนั้นพอแม่ปิดร้านแม่ก็ให้เจ้าหมีมันนอนข้างนอกบ้าน ลูกแก้วถามแม่ว่าทำไมไม่ให้เจ้าหมีมันเข้าบ้านแม่ก็บอกว่า
“ตัวมันเหม็น” ลูกแก้วก็ไม่กล้าขัดใจแม่
เช้าวันนั้นพอแม่เปิดร้านลูกแก้วก็ไม่เจอเจ้าหมีอีกคงเพราะรถเทศบาลจับมันไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ถึงแม้ว่าลูกแก้วจะร้องไห้หรือโวยวายแค่ไหนแม่ก็ไม่ไปไถ่ตัวมันมาอีกเพราะแม่บอกว่าถ้ามันกลับมามันก็ต้องตายแต่ถ้าอยู่ที่นั่นเค้าจะได้เอามันไปฝัง แม่ก็คงจะมีเหตุผลเพราะเนื่องจากว่าตอนนั้นบ้านของลูกแก้วไม่มีเนื้อที่ว่างเปล่าเหลือเลยด้านข้างและด้านหลังก็เป็นหนองน้ำส่วนด้านหน้าก็เป็นถนน เหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ลูกแก้วฝังใจ
ลูกแก้วคิดว่าถ้าถึงแม้มันต้องตายมันก็น่าจะได้อยู่ใกล้ๆกับลูกแก้วไม่ได้หรือ ลูกแก้วโกรธแม่ไปหลายวัน
แต่วันเวลาที่ผ่านไปมันก็ทำให้ลูกแก้วลืมเลือนมันไป
ตอนนี้ลูกแก้วไม่คิดอยากมีเพื่อนสี่ขาแล้วแต่มันก็มีผ่านเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
คราวนี้มันเป็นลูกสุนัขตัวอ้วนกลมสีน้ำตาลอ่อน
ลูกแก้วพยายามที่จะไม่ทำให้ตัวเองผูกพันกับมันเหมือนวันที่ผ่านๆมาแต่สุดท้ายลูกแก้วก็แพ้ความน่ารักของมัน ลูกแก้วตั้งชื่อให้มันว่า “เจ้าบราวน์”
ตอนนี้ลูกแก้วเรียนจบแล้วและตั้งใจว่าจะหางานทำและในที่สุดลูกแก้วก็ได้ไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และลูกแก้วกับแม่ก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่ใหม่ที่นี่เป็นบ้านชั้นเดียวและมีพื้นที่กว้างพอที่จะให้เจ้าบราวน์วิ่งเล่น ตอนเช้าลูกแก้วไปทำงานลูกแก้วก็ต้องพยายามย่องหนีให้เบาที่สุดเมื่อออกจากบ้านเพราะไม่เช่นนั้นมันก็จะลอดรั้วหนีตามลูกแก้วมาทุกครั้ง…..
มนัสนันท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น