วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

ถนนสายหัวใจตอนที่7



                                                                           ตอนที่ 7
                อาทิตย์นั้นเป็นวันหยุดยาว  ตอนเย็นลูกแก้วก็เลยไปแวะไปดูเจ้าดำว่ามันเป็นอย่างไรพอลูกแก้วไปถึงเจ้าดำมันได้กลิ่นมันก็รีบคลานมาหา ลูกแก้วก็เลยอุ้มมันขึ้นมาเพื่อจะบอกกับมันว่าลูกแก้วจะไม่มาหามันหลายวันน่ะแต่พอลูกแก้วอุ้มมันขึ้นมาลูกแก้วก็เห็นว่าตัวของมันร้อนมาก อุ้มพลิกซ้ายพลิกขวาดูก็เห็นคอของมันบวมเป่งลูกแก้วก็เลยตัดสินใจอุ้มมันไปหาหมอ  พอไปถึงร้านหมอๆก็เอาเจ้าดำเข้าไปเจาะหนองที่คอออกแล้วก็บอกว่าคงเป็นเพราะตัวอะไรกัดมันจึงทำให้เป็นเช่นนี้  แล้วก็กำชับว่าต้องล้างแผลให้มันทุกวันและก็ต้องป้อนยาให้ครบ เอาหล่ะซิ!แล้วลูกแก้วจะอุ้มมันกลับไปหาเจ้าขาวแล้วบอกว่าแกต้องล้างแผลแล้วก็ป้อนยาให้ลูกน่ะมันก็คงไม่ได้  ลูกแก้วก็เลยต้องตัดสินใจพาเจ้าดำมันกลับมาที่บ้าน  คำแรกที่แม่ของลูกแก้วถามก็คืออุ้มมันมาทำไม ซึ่งลูกแก้วก็ให้เหตุผลว่าลูกแก้วต้องพามันมาดูแลช่วงวันหยุดเมื่อไปทำงานก็จะเอามันไปคืนแม่ของมัน  แต่มันก็เป็นเพียงข้ออ้างของลูกแก้วเพราะเมื่อไปทำงานวันแรกลูกแก้วก็ไม่เอาเจ้าดำลูกตัวสุดท้ายไปคืนเจ้าขาว  เมื่อแม่ถามลูกแก้วๆก็บอกว่าจะเลี้ยงเจ้าดำไว้ แล้วลูกแก้วก็ตั้งชื่อให้มันว่า “เจ้าเฉาก๋วย” มันโตวันโตคืนเลี้ยงง่ายเหมือนมันจะรู้ตัวเมื่อไหร่ที่ลูกแก้วกลับบ้านมันจะดีใจเป็นพิเศษแล้วก็จะต้องวิ่งมาเกาะขาเป็นประจำ  มีอยู่วันหนึ่งพอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นมีใครอยู่บ้านแต่เรียกหาเจ้าเฉาก๋วยเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเดินหาจนทั่วบ้าน  ตอนนั้นลูกแก้วใจหายมากคิดแต่ว่าตัวอะไรกินมันไปหรือเปล่า  พอเหนื่อยก็นั่งลงตรงใกล้ๆเครื่องซักผ้าสักพักก็ได้ยินเสียงกุกกักพอไปดูหลังเครื่องซักผ้าก็เห็นเจ้าเฉาก๋วยดิ้นไปดิ้นมาเพื่อที่จะออกมาข้างนอกซึ่งคงเป็นเพราะว่ามันได้กลิ่นลูกแก้ว  ตอนนั้นลูกแก้วดีใจมากจับมันออกมาได้พอเห็นหน้ามันก็น้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว  เจ้าเฉาก๋วยอยู่กับลูกแก้วได้ 6 เดือนมันก็ตัวโตมากขายาวเก้งก้าง ผิดจากที่ตอนเล็กๆมันนอนอยู่บนรองเท้าฟองน้ำ.....
             วันนั้นลูกแก้วเดินออกไปหน้าสำนักงาน ลูกแก้วก็เห็นสุนัขสีขาวตัวเล็กหน้าตาน่ารักขนหยิกเดินมาเล่นอยู่แถวกองทรายจนตัวของมันมอมแมมและแดงไปด้วยสีของทราย  ลูกแก้วสงสารก็เลยจับมันไปอาบน้ำพอเช็ดตัวเสร็จมันก็เป็นสีขาวสะอาดตา  ลูกแก้วก็เลยอุ้มมันไปเดินตามหาเจ้าของแต่ก็ไม่มีใครบอกว่าเป็นของตัวเอง  ลูกแก้วก็เลยรับอุปการะมันเลยในวินาทีนั้น  พอลูกแก้วอุ้มมันกลับมาถึงบ้าน  มันก็เล่นกับเจ้าเฉาก๋วยทันที อีกตัวสีขาวล้วนส่วนอีกตัวสีดำปี๋ มันช่างเป็นอะไรที่ลงตัวเช่นนี้  ลูกแก้วนั่งมองหน้ามันขนหยิกหนานุ่มของมันเหมือนขนของแกะมาก ลูกแก้วก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า “เจ้าชีฟ” ที่แปลว่าลูกแกะนั่นแหละ ไม่นานลูกแก้วก็ได้สุนัขพันทางมาเลี้ยงอีกตัวลูกแก้วตั้งชื่อมันว่า “เจ้ามอม” มันเป็นสุนัขที่ขนเรียบสีน้ำตาล มันเป็นสุนัขที่แคล่วคล่องว่องไว  ตอนนี้ลูกแก้วก็เลยมีเพื่อนตั้ง 3 ตัว พวกมันไม่เคยทะเลาะกันเลยเวลาที่ลูกแก้วหยุดงานลูกแก้วก็จะอุ้มเจ้าตัวเล็กมานั่งดูเจ้าสามตัวนี้  ปรากฏว่าแทนที่เจ้าตัวเล็กจะดูเจ้าสามตัว แต่เป็นเจ้าสามตัวนั่งนิ่งมองดูน้องดิ้นไปมา...ตอนนี้ลูกแก้วมีความสุขมาก  ถนนในหัวใจของลูกแก้วมันทอดไปยาวไกลลูกแก้วนึกถึงวันที่เจ้าตัวเล็กโตไปพร้อมๆกับเจ้าทั้งสามตัว แค่นั้นลูกแก้วก็มีความสุขแล้ว  ผ่านไปหลายปีตอนนี้เจ้ามอมอายุได้ 4 ปีมันเป็นสุนัขที่เฝ้าบ้านได้ดีพวกสัตว์แปลกๆที่หลงเข้ามาในบ้านเจ้ามอมเป็นต้องจัดการจนหมดสิ้น  ซึ่งมันก็เป็นข้อดีแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งนี้มันจะทำให้มันต้องจากลูกแก้วไปในวันข้างหน้า  วันนั้นลูกแก้วจะออกไปทำงานแต่มันกลับไม่เหมือนทุกวันเพราะลูกแก้วรู้สึกมันเศร้าๆ เหงาๆ พอไปถึงที่ทำงานลูกแก้วก็รีบทำงานจนเที่ยงลูกแก้วก็ไม่ออกไปกินข้าวนั่งทำงานต่อ  จนเย็นเลิกงานลูกแก้วก็รีบกลับบ้านทันที...ก้าวแรกที่ลูกแก้วเดินเข้าประตูบ้านลูกแก้วรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ ลูกแก้วเรียกหาเจ้ามอมเป็นตัวแรกแต่มันกลับมีแต่ความว่างเปล่าหัวใจของลูกแก้วเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่พอเดินเข้าไปถึงหน้าประตูบ้านลูกแก้วก็เห็นเจ้ามอมนอนนิ่งไม่ไหวติงลูกแก้วเดินเข้าไปหามันพร้อมด้วยน้ำตาที่นองหน้า  เจ้ามอมมันจากลูกแก้วไปแล้วและสาเหตุก็มาจากการที่ลูกแก้วล่ามโซ่มันไว้แล้วมันกระโจนกัดเจ้าตัวเงินตัวทองที่ชอบเดินเข้ามาในบ้านเป็นประจำแต่ครั้งนี้เจ้ามอมมันโชคร้ายที่กระโดดขึ้นไปบนหลังมอเตอร์ไซค์แล้วลื่นตกจากเบาะทำให้สายจูงไปคร่อมบนเบาะนั่งพอมันกระโดดข้ามมาอีกทีสายจูงก็เลยพันคอของมัน ยิ่งมันดิ้นก็ยิ่งทำให้แน่นมากขึ้นจนสุดท้ายมันก็เลยต้องจบชีวิตนักล่าด้วยตัวของมันเอง  ลูกแก้วขุดหลุมฝังมันไปก็ร้องไห้ไปจนเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว  คืนนั้นลูกแก้วไม่ได้นอนเลยทั้งคืนลูกแก้วมีส่วนที่ทำให้มันตายเพราะลูกแก้วไม่ได้ปลดเชือกที่คอให้มันก่อนออกจากบ้านและครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตที่ทำให้ลูกแก้วต้องสูญเสียเพื่อนที่ดีไปอีก......   
                                                                                                                                             มนัสนันท์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น